ก่อนที่จะต่อประกันให้ลูกค้าสิ่งสำคัญที่เราต้องรู้คือ เอกสารสำคัญของรถยนต์ 1 คันมี 3 อย่าง
- พ.ร.บ.
- ป้ายทะเบียน
- ประกันภาคสมัครใจ
วิธีการเช๊คเบี้ยประกันภัย การเช๊คเบี้ยประกัน มี 2 วิธี ดังนี้
1.เช็คเบี้ยงานใหม่ คือ เช๊คราคาบริษัทประกันภัยที่ต่างจากบริษัทเดิมที่ทำอยู่แล้ว (ตัวอย่าง จากวิริยะ เปลี่ยนเป็น สินมั่นคง อื่นๆ )
- แนะนำกรณีเมื่อลูกค้ามีเครมเป็นฝ่ายผิด เบี้ยจะสูง แต่ถ้าเครมไม่มาก ก็ไม่เพิ่มเท่าไร สามารถเช็คที่เดิมเพื่อเปรียบเทียบได้
- ต้องถ่ายรูปตรวจรถใหม่(มีเจ้าหน้าที่ดูแลตรงนี้) พอเจ้าหน้าที่นัดถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อยถึงจะคุ้มครองเป็นชั้น 1 ถ้ายังไม่ถ่ายรูป ก็จะคุ้มครองเป็น ป 3 เกิดเหตุต้องโทรแจ้งเครมทันที่เมื่อเกิดเหตุ)
- บอกลูกค้ารถต้องในสภาพนางฟ้า ไม่มีรอย เพราะถ้ามีรอยก่อนหน้าบริษัทใหม่จะไม่รับเครมตรงนี้ บ้างครั้งรถรอยเยอะบริษัทประกันก็ไม่รับก็มี
- แนะนำให้ลูกค้าถ้าจะเปลี่ยนที่ใหม่ คุณต้องเครมที่เดิมให้หมด ใบเครมเก็บได้ 2 ปี แจ้งไว้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวค่อยไปเครมที่หลังและนัดเจ้าหน้าที่ถ่ายรูปเพิ่มเพื่อคุ้มจุดนั้น
2.เช็คเบี้ยงานโอนโค๊ต คือ เช๊คเบี้ยที่บริษัทประกันเดิมแต่เปลี่ยนนายหน้ามาเป็นเรา เพราะ ลูกค้าไม่มีเครมหรือเครมเป็นฝ่ายถูก เบี้ยจะถูกลงเยอะ แนะนำเช๊คเบี้ยโอนโค๊ต
ข้อดีคือ
- เบี้ยประกันจะถูกลงมาก เพราะได้ส่วนลดประวัติดี ทำให้เราสามารถปิดลูกค้าได้ง่ายมากๆ
- ลูกค้าไม่ต้องถ่ายรูปใหม่
ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมในเช๊คเบี้ยประกันรถยนต์
1.สอบถามข้อมูลและเอกสารจากลูกค้า
- ต้องการประกันประเภทไหน ประกันชั้น 1, 2 ประกันประเภท 2+, 3+ หรือประเภท 3 ตามความต้องการของลูกค้า ถ้าประกันชั้น 1 ซ่อมอู่หรือซ่อมห้าง(ศูนย์)
- สอบถามลูกค้าว่าที่เดิมมีเครมไหม เป็นฝ่ายผิดหรือถูก ถ้าลูกค้าไม่เคยเครมหรือเครมแต่เป็นฝ่ายถูก เบี้ยลูกค้าปีต่อจะถูกลงมากๆ
- ขอข้อมูลรถยนต์หรือเอกสาร : สำเนาทะเบียนรถหรือกรมธรรม์เดิมปีที่แล้ว(แนะนำขอเป็นกรมเดิมจะดีที่สุดเพราะข้อมูลจะครบพร้อมทั้งทุนประกันและข้อมูลบริษัมเดิม)
- ถามลูกค้าว่ามีกล้องหน้าหรือป่าว ถ้ามีอาจจะลดเบี้ย กล้อง 5% แต่ถ้าบริษัทไหนเบี้ย single rate (เบี้ย package ) แล้วก็จะไม่ลดเพราะรวมส่วนลดไปแล้ว
- หมายเหตุ เราต้องรู้ว่าที่เดิมทำประกันบริษัทอะไรเพื่อไม่ผิดพลาดในการเช๊คราคาให้ลูกค้า
2.เตรียมเอกสารสำหรับเช๊คเบี้ย
เช็คเบี้ยงานใหม่ : ใช้เพียงแค่กรมธรรม์เดิมเท่านั้น
เช็คเบี้ยงานโอนโค๊ต : โดย ต้องใช้เอกสาร 3 อย่างดังต่อไปนี้
- กรมธรรม์เดิม
- บัตรประชาชนเซ็นสำเนาถูกต้อง ว่า ยินยอมให้ศรีกรุงโบกเกอร์ดูแลเท่านั้น แล้วเซ็นชื่อกำกับด้านล่าง
- เอกสารโอนโค๊ตแต่ละบริษัทจะแตกต่างกันไป ถ้าไม่มีก็ใช้เอกสารส่วนกลางของศรีกรุงโบกเกอร์เหมือนข้างล่าง ดูได้ที่ คลิก Link
ต้องใช้เอกสารประกอบการโอนโค๊ตเพราะเป็นกฎของบริษัทประกัน ยกเว้น บริษัท วิริยะ สินมั่นคง เช๊คก่อนได้เลย แต่ตอนแจ้งงานเอกสารโอน
โค๊ต แต่ตอนส่งงานก็ต้องส่งเอกสารโอ๊ตโค๊ดอยู่ดี
ช่องทางการเช๊คเบี้ยมี 3 ช่องทางด้วยกัน
1.ผ่านศรีกรุงโบรกเกอร์
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ 43 สาขาไหนก็ได้ทั่วประเทศ ผ่านช่องทาง line หรือไปที่สาขาทั่วประเทศ จันทร์-เสาร์ เวลาทำการ 8:30-17:30 น
- ผ่านทาง line id : @srikrungbroker 24 ช่องทางนี้มีเจ้าหน้าที่ดูแล 24 ชั่วโมง
หมายเหตุ
- ใบเสนอราคา มีอายุ 7 วัน หลังจากนั้นต้อง คอนเฟริมเบี้ยกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
- เจ้าหน้าที่จะส่งกลับมาไม่เกิด 10 ที่ สำหรับงานใหม่ แต่งานโอนโค๊ตจะนานหน่อยเพราะต้องส่งให้เจ้าหน้าบริษัทประกันพิจารณา
- เบี้ยที่ได้จากการเช๊คแบบงานใหม่ไม่ใช่เบี้ยโอนโค๊ด และตรงบริษัทเดิมที่ทำปีที่แล้ว จะใช้เบี้ยนี้ไม่ได้นะคะ
- ใบเสนอราคาที่ได้มาจะเป็นเบี้ยเต็ม ยังไม่ได้คิดราคาส่วนลดสมาชิก
- ในกรณีที่ลูกค้าจะสมัครสมาชิก แจ้งขอเพิ่มเติม หรือ ให้เจ้าหน้าที่คำนวนให้โดยขอเบี้ยระดับ 6(สมาชิกไม่มีบัตรนายหน้า) หรือคำนวนเองได้
2.ผ่านเว็บไซด์ 724 ของเราเอง สามารถเช็คเบี้ยได้ด้วยตัวเอง แล้วส่ง link ให้ลูกค้าซื้อออนไลน์ได้เลย
ขั้นตอนการแจ้งงาน
- ติดต่อส่งงานกับเจ้าหน้าที่ได้ออกใบเสนอให้เรา เพื่อความต่อเนื่องในการทำงาน
- เตรียมเอกสารและข้อมูลลูกค้าให้พร้อม
- จัดส่งเอกสารให้เจ้าหน้า โดยถ่ายรูปเอกสารส่งทางไลน์ ได้เลย สะดวกมากๆ
เอกสารการเตรียมเพิ่มแจ้งงานประกันรถยนต์ให้ลูกค้า
1.หลักฐานการจ่ายเงินสามารถหักค่าคอมก่อนได้
- เงินสด : เบี้ยประกันสามารถหักค่าคอมได้เลย เป็นยอดโอนระดับ 6 หรือ 5 แล้วแต่ว่าเราอยู่ระดับไหน
- ผ่อนบัตรเคดิต: ต้องจ่ายเต็มจำนวน ค่าคอมหรือเงินส่วนลดจะจ่ายคืนเมื่อผ่อนเสร็จ เข้ารหัสคนแจ้งงาน
2.สำเนาทะเบียนรถ
3.ที่อยู่จัดส่งเอกสารและเบอร์โทรถ่ายรูปรถ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ติดต่อได้สะดวก