วิธีการเรียกร้อง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ระหว่างซ่อม ที่คนมีรถต้องรู้

ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม

ทุกคนที่ขับรถต้องรู้เกี่ยวกับ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม คือ เมื่อไรก็ตามที่เราทำประกันรถยนต์และรถเราโดนชนและเป็นฝ่ายถูกแล้วนำรถเข้าซ่อม ทำให้เราไม่มีรถใช้ ต้องใช้รถโดยสาร หรือต้องเสียเงินเช่ารถมาใช้ระหว่างรถยังซ่อม ทำให้เราเสียประโยชน์และค่าใช้จ่ายตรงนี้ไป แล้วเราต้องเรียกจากประกันฝ่ายเราหรือฝ่ายคู่กรณีละที่นี่ เคยสงสัยกันบ้างไหมเอ๋ย เราก็เคยเกิดเหตุเหมือนกันตอนนั้นเราเป็นฝ่ายถูก รถเราเข้าซ่อมน่าจะ 2 อาทิตย์ได้ ระหว่างนั้นเราได้ศึกษา แล้วไปอ่านเจอเรื่อง ค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อมด้วย คือ เราสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ได้ถ้าเราเป็นฝ่ายถูก สามารถเรียกจากบริษัทประกันคู่กรณีฝ่ายผิดได้เลย พอรถซ่อมเสร็จก็ได้ขอเอกสารจากทางศูนย์และเอกสารต่างๆ เพื่อเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม ซึ่ง ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เป็นเสมือนเงินสินไหมอีกประเภทหนึ่งที่ฝ่ายถูกต้องได้รับจากฝ่ายผิด เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่าย ระหว่างที่เราส่งรถเข้าซ่อม เราจะมาพูดถึงรายระเอียดและขั้นตอนในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ดังนี้

วิธีการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม

เอกสารที่ใช้ในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมสามารถเรียกร้องได้เท่าไร

วิธีการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม

หลังจากที่เรารู้แล้วเรา ถ้าเมื่อไรก็ตามที่เกิดเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายถูกเราสามารถเรียกร้องค่าเสียหายระหว่างซ่อมตามจริงกับคู่กรณีได้เลย  เราเลยอย่างมาอธิบายวิธีการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เราขอแนะนำเป็นขั้นตอน ดังต่อไปนี้

  1. เราต้องเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น ถึงสามารถเรียกร้องค่าค่าขาดประโยชน์ได้  เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นและเราตกลงกันได้เรียบร้อยกับคู่กรณีว่าเราเป็นฝ่ายถูกแล้วเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการได้เลย
  2. ติดต่อไปที่บริษัทประกันคู่กรณี จากนั้นให้ดำเนินการยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆและใบคำร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้เลย
  3. เจ้าหน้าที่บริษัทฝ่ายคู่กรณีจะทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ เมื่อบริษัทพิจารณาทุกอย่างเรียบร้อยเจ้าหน้าที่ก็จะติดต่อกลับมาที่เรา เพื่อขอต่อรองเกี่ยวกับค่าขาดประโยชน์ว่าจะจ่ายให้เราวันละเท่าไหร่ อันนี้ขึ้นอยู่กับการต่อรอง
  4. หลังจากการเจรจาต่อลองและตกลงกันได้แล้วว่าจะจ่ายวันละเท่าไร และเป็นเวลากี่วัน ปกติก็ใช้เวลาไม่นาน แต่บ้างเคสอาจนาน ดังนั้นเราต้องขอชื่อและเบอร์ติดต่อ แผนก ของเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องและประสานงานให้เราไว้ด้วย เพื่อการติดต่อกลับเพื่อตามเรื่องจะได้ตามเรื่องถูกคน ถูกแผนก ว่าเรื่องถึงไหนแล้วทำให้เงินเข้าเร็วขึ้น

เอกสารที่ใช้ในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม

เมื่อบริษัทคู่กรณีตกลงและแจ้งเอกสารที่ต้องการมาก็ให้คุณนำเอกสารต่าง ๆ ส่งไปยังบริษัทประกันคู่กรณี  โดยเอกสารคร่าวๆมีดังนี้

  1. หนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม เราสามารถดาวน์โหลดได้จากลิงก์ คลิก
  2. ใบเคลมเพื่อรับรองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน
  3. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกันรถยนต์ที่เป็นฝ่ายถูก
  4. สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของผู้เอาประกันรถยนต์ที่เป็นฝ่ายถูก
  5. สำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์ของผู้เอาประกันรถยนต์ที่เป็นฝ่ายถูก
  6. สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของผู้เอาประกันรถยนต์ที่เป็นฝ่ายถูก
  7. สำเนาบัตรประชาชนของผู้เอาประกันรถยนต์ที่เป็นฝ่ายถูก
  8. สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกันรถยนต์ที่เป็นฝ่ายถูก
  9. ใบประเมินค่าซ่อม มีรายละเอียดระบุช่วงวัน ที่เอารถเข้าซ่อม-อย่างชัดเจน มีรูปถ่ายรถยนต์ระหว่างซ่อม มีใบเสร็จค่าซ่อม
  10. ใบรับรถยนต์ หรือ หนังสือส่งมอบรถเมื่อเสร็จ

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ระหว่างซ่อมสามารถเรียกร้องได้เท่าไร

คปภ. หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีการกำหนด ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ โดยระบุเอาไว้ชัดเจน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

  1. รถยนต์ส่วนบุคคลแบบไม่เกิน 7 ที่นั่ง ไม่ต่ำกว่า 500 บาท ต่อ วัน
  2. รถยนต์รับจ้างสาธารณะแบบไม่เกิน 7 ที่นั่ง ไม่ต่ำกว่า 700 บาท ต่อ วัน
  3. รถยนต์ทุกประเภทแบบเกิน 7 ที่นั่ง ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ต่อ วัน

โดยการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จะได้เท่าไรขึ้นอยู่กับเราตกลงกันกับบริษัทประกันคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด  หากคิดว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงาน คปภ. ทุกพื้นที่

ดังนั้นอยากแนะนำให้เพื่อนๆทุกคนได้ทำประกันรถยนต์ไว้ เพื่อโอนความเสี่ยให้บริษัทประกันเพื่อเราจะได้ไม่ต้องมารับความเสี่ยงนั้นไว้เอง อย่างน้อยๆก็ซื้อแบบคุ้มครองเฉพาะคู่กรณีก็ได้เบี้ยเพียงหลักพันตอน โดยสามารถศึกษาขอมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก คนมีรถต้องรู้ ต่อประกันรถยนต์ ประเภทไหนเหมาะที่สุด